โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมีความยินดีที่ประเทศ ไทย สามารถทำการส่งออก มะม่วง ได้เป็นอันดับที่ 7 ของโลก และอันดับที่ 2 ในอาเซียน มะม่วง, ไทย – (26 เม.ย. 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจมูลค่าการส่งออกมะม่วงสดของไทย ซึ่งปัจจุบันขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565
โดยไทยถือเป็นผู้ส่งออกมะม่วงเป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน
และเป็นอันดับ 7 ของโลก สะท้อนความนิยมของผลไม้ไทยซึ่งมีศักยภาพในตลาดโลก พร้อมสนับสนุนการขยายช่องทางทางการค้าเพิ่มเติมผ่านการเจรจาการค้าเสรี และข้อตกลงทางการค้าเสรี FTA
ทั้งนี้ในปี 2564 ไทยส่งออกมะม่วงสดมูลค่ารวม 95 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งขยายตัวกว่า 52% จากปี 2563 ต่อเนื่องจนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 ไทยส่งออกมะม่วงสดมูลค่ารวม 11 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวมากถึง 15% จากช่วงเดียวกันของปี 2564
จากข้อมูลของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า มะม่วง ไทย ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดต่างประเทศ เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ให้ผลผลิตตลอดทั้งปี สามารถเก็บเกี่ยวได้โดยไม่ต้องรอฤดูกาล อีกทั้งยังมีคุณภาพดี รสชาติอร่อย หอมหวาน มีพันธุ์มะม่วงที่หลากหลาย อาทิ มะม่วงน้ำดอกไม้ เขียวเสวย มหาชนก และโชคอนันต์
โดยเฉพาะตลาดคู่เจรจา FTA ของไทยทั้ง 15 ประเทศที่มีมูลค่าการส่งออกสัดส่วนสูงถึง 98% ของการส่งออกมะม่วงสดทั้งหมด ได้แก่ อาเซียน 7 ประเทศ (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม เมียนมา และมาเลเซีย) จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี เปรู และฮ่องกง
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำแนวทางในการทำงาน ให้การส่งออกมะม่วงมีความต่อเนื่องรองรับกับช่วงได้รับกระแสความนิยม และความต้องการทางตลาดในแต่ละประเทศ โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาขยายช่องทางการค้าและส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเติมในประเทศคู่เจรจา FTA รวมทั้งให้การสนับสนุน ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาเพิ่มเติมรูปแบบ ช่องทาง ของสินค้าในการส่งออก ทั้งในด้านการออกแบบ การแปรรูปสินค้าเพื่อให้สามารถเพิ่มมูลค่าและขยายกลุ่มเป้าหมายในตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น
ตลอดจนควบคุมมาตรฐานสินค้าและพัฒนาคุณภาพการผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด เช่น การรับรองตามมาตรฐาน GAP หรือการขึ้นทะเบียนตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและเป็นยกระดับราคาผลผลิตให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ
ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าด้วยคุณภาพที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของมะม่วงไทยจะเป็นอีกสินค้าเกษตรที่สามารถส่งออกได้ต่อเนื่องในระยะยาว รวมทั้งยังสามารถสร้างรายได้ให้แก่ภาคการเกษตรของไทยได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
เช็กสิทธิ ประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน ช่วยเหลือลูกจ้าง 2565 กรณีเกิดเรื่องร้ายจากการทำงาน
เช็กสิทธิ ประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน ช่วยเหลือลูกจ้าง 2565 เมื่อเกิดกรณีเรื่องร้ายจากการทำงานทั้งเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตายหรือสูญหาย สูญเสียอวัยวะ หรือสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกาย อันเนื่องมาจากการทำงานให้นายจ้าง
อัปเดตสิทธิ ประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน ช่วยเหลือลูกจ้าง 2565 สำนักงานประกันสังคมยืนยัน ลูกจ้างไม่ต้องกังวล หากเกิดเรื่องร้ายจากการทำงาน กองทุนทดแทนพร้อมช่วยเหลือ เช็กสิทธิ และเงินประกันสังคม ค่ารักษาต่าง ๆ ได้แล้วที่นี่
กองทุนทดแทนช่วยเหลือลูกจ้าง คือ กองทุนที่จ่ายเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้างแทนนายจ้าง เมื่อลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตายหรือสูญหาย สูญเสียอวัยวะ หรือสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกาย เนื่องมาจากการทำงานให้แก่นายจ้าง โดยไม่คำนึงถึง วัน เวลา และสถานที่ แต่จะมุ่งไปที่สาเหตุที่ทำให้ประสบเรื่องอันตรายหรือเจ็บป่วย โดยนายจ้างจะเป็นผู้จ่ายเงินสมทบรายปีให้กับ สำนักงานประกันสังคม
สำหรับสิทธิประกันสังคม กองทุนเงินทดแทนช่วยเหลือลูกจ้าง จะมีสิทธิค่ารักษาพยาบาล เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ต่อการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย 1 ครั้ง แต่หากว่ามีเหตุรุนแรง เรื้อรัง ก็สามารถจ่ายเพิ่มได้อีกตามความจำเป็น โดยยึดหลักเกณฑ์เงื่อนไขจนสิ้นสุดการรักษาพยาบาล หากเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐ
ในส่วนของค่าทดแทนรายเดือน สำหรับประกันสังคม กองทุนเงินทดแทนช่วยเหลือลูกจ้าง เมื่อลูกจ้างประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง จนเป็นเหตุให้มีการหยุดงาน สูญเสียสมรรถภาพในการทำงาน ทุพพลภาพ ตายหรือสูญหาย จะได้รับค่าทดแทน 70% ของค่าจ้างรายเดือน และไม่น้อยกว่าค่าจ้างขั้นต่ำรายวันตามกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในท้องที่ที่ลูกจ้างประจำทำงานอยู่ ซึ่งจะได้รับเงินทดแทนสูงสุดไม่เกิน 14,000 บาท/เดือน
ย้ำอีกครั้งสำหรับ ใครที่ยังใช้คนละครึ่งเฟส 4 ไม่ครบสิทธิ โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จะหมดเขตในวันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2565 เวลา 23.00 น. และตอนนี้ยังไม่มีโครงการใด หรือคนละครึ่งเฟส 5 ที่จะมาต่อในทันทีในวันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม 2565 ซึ่งจะต้องทำการพิจารณาแล้วประเมินสถานการณ์และความจำเป็นอีกครั้ง
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป