เอาบ้าง! ‘ดอน’ เข้าพบ ‘แทมมี’ หารือปม วัคซีนล้านโดส

เอาบ้าง! ‘ดอน’ เข้าพบ ‘แทมมี’ หารือปม วัคซีนล้านโดส

ดอน เข้าพบกับ แทมมี ดักเวิร์ธ หารือพร้อมขอบคุณปมบริจาควัคซีนไฟเซอร์อีกล้านโดส เตรียมเข้าประชุมคณะทำงานไทย-สหรัฐฯ สัปดาห์นี้ นาย ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือกับนาง แทมมี ดักเวิร์ธ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ รัฐอิลลินอยส์ ในระหว่างการเยือนกรุงวอชิงตัน โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ขอบคุณวุฒิสมาชิก ดักเวิร์ธ ต่อบทบาทในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ และได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นที่ไทยและสหรัฐฯ ให้ความสำคัญร่วมกัน รวมถึงแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถึงบทบาทของไทยในฐานะผู้ประสานงานของอาเซียนเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน 

และวาระการเป็นเจ้าภาพเอเปคในปี ๒๕๖๕ ก็จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความพยายามในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วย

ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือด้านวัคซีนโควิด-19 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขอบคุณวุฒิสมาชิก ดักเวิร์ธ ที่ได้ช่วยผลักดันวัคซีน 1 ล้านโดสที่สหรัฐฯ จะให้กับไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายยินดีที่ฝ่ายสหรัฐฯ ได้เชิญประชุมคณะทำงานไทย-สหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการกดปุ่มเริ่มต้นกระบวนการส่งมอบวัคซีน 1 ล้านโดสดังกล่าว

สองฝ่ายยังได้หารือกันถึงแนวทางความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG และการเสริมสร้างความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการส่งเสริมการค้าเสรี ซึ่งรวมถึงข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership: CPTPP) และแนวคิดเรื่องความตกลงเขตการค้าเสรีของเอเชียแปซิฟิก (The Free Trade Area of the Asia Pacific: FTAAP) ด้วย

ตามคำเชิญของเจ้าชาย มุฮัมมัด บิน ซัลมาน อับดุล อะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดิอาระเบีย การไปเยือนซาอุดิอาระเบียของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ของการเยือนในระดับ “ผู้นำรัฐบาล”

นายกรัฐมนตรีของไทย ได้มีกำหนดเข้าเฝ้า เจ้าชาย มุฮัมมัด บิน ซัลมาน อับดุล อะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดิอาระเบีย เพื่อส่งเสริม และกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน”

‘อนุทิน’ เผย จีนบริจาคซิโนแวค อีก 1.5 ล้านโดส

อนุทิน เผย จีนบริจาคซิโนแวค ให้ประเทศไทยอีก 1.5 ล้านโดส พร้อมเผยได้พูดคุยทำความเข้าใจเรื่องสหรัฐฯบริจาคไฟเซอร์ล้านโดสแล้วเช่นกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึง การฉีดวัคซีนโควิด 19 ในช่วง ต.ค. ว่า ต.ค.จะมีวัคซีนจำนวนมาก ทั้งไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค การฉีดไม่จำเป็นต้องฉีดให้ได้ถึงวันละ 1 ล้านโดส ทยอยฉีดกันวันละ 7-8 แสนโดส

อย่างวันที่ 28 ก.ย. ฉีดได้ 7 แสนโดส วันที่ 27 ก.ย. 5 แสนโดส วัคซีนมาเราก็ทยอยฉีด ไม่ได้นำวัคซีนมาเก็บหรือมาดองไว้ แต่ไม่ได้ไปเร่งบุคลากร เพราะทราบว่าทุกคนก็เหนื่อยมาก อีกทั้งการฉีดหลักแสนรายก็ไม่ได้น้อย ดังนั้น ขอความเห็นใจอย่าตำหนิบุคลากรเพราะไปบั่นทอนกำลังใจ

โดยนาย อนุทิน กล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 เป็นบูสเตอร์โดสจะทยอยฉีดทุกคนที่อยู่ในระยะเวลาที่ควรได้รับ โดยเป็นคนที่ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม นับตั้งแต่ มี.ค.เป็นต้นไป มี 3-4 ล้านคน ส่วนคนที่ฉีดซิโนฟาร์มต้องผ่านคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน หากข้อมูลเข้ามาก็พร้อมฉีดให้ เพราะเป็นเชื้อตายเหมือนกัน

สำหรับกรณีซิโนฟาร์มผู้นำเข้าคือบริษัทไบโอเจนนีเทคร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ การเก็บข้อมูลหลักฐานเอกสารต่างๆ จะอยู่ที่นั่น อีกทั้งมีกฎหมายที่ใช้ในการตัดสินใจดำเนินแนวทางต่างๆ ได้ เพียงแต่หากมาขอความเห็นชอบจากกระทรวง และเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ก็จัดให้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาถือว่าได้เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้จำนวนมาก ตอนนี้ฉีดไปได้กว่า 10 ล้านเข็มแล้ว

“ขณะนี้จีนได้แสดงความจำนงที่จะบริจาควัคซีนซิโนแวคให้ไทยอีก 1.5 ล้านโดส ส่งเอกสารแสดงเจตจำนงมาแล้ว การดำเนินการหลังจากนี้ยืนยันว่าไม่ล่าช้า ไม่ว่าเป็นประเทศอะไรก็ตาม ส่วนกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ที่ระบุว่าประเทศไทยปฏิเสธการลงนามรับบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐอเมริกา 1 ล้านโดส ทั้งที่จริงๆ แล้วยังไม่มีการส่งเอกสารยืนยันมานั้น ตอนนี้คุยกันแล้ว ทำความเข้าใจกันแล้ว” นายอนุทินกล่าว

อย่างไรก็ตาม การเกิดของพรรคไม่ได้เกิดเพื่อการเลือกตั้ง แต่เพื่อให้เรามีความหวัง เป็นจุดเริ่มที่จะทำงานบนอุดมการณ์เดียวกัน เป็นหัวใจสำคัญของพรรคการเมือง สร้างให้สังคมมีความเชื่อมั่น เราเคยทำพรรคและเป็นผู้อาสาที่จะรวบรวมบุคลากร สิ่งที่ตั้งใจคือพรรคสร้างอนาคตไทยจะต้องเป็นเสาหลัก เชื่อมโยงจุดเปลี่ยนผ่าน วางรากฐานไปสู่อนาคตข้างหน้า เปิดกว้างกับทุกอาชีพและทุกวัย ประคับประคองคนรุ่นใหม่ สร้างความรู้ ประสบการณ์ บุคลากร ย้ำว่าไม่ใช่เพื่อการเลือกตั้ง แต่จะยึดโยงกับประชาชน สร้าง ส.ส.ของพรรคให้เป็น ส.ส.อุดมการณ์ ในการทำงานนิติบัญญัติเพื่อบ้านเมือง พร้อมขอบคุณที่ได้รับความสนใจอย่างมาก

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป