ทนายแฉ! ‘แอมเบอร์ เฮิร์ด’ พา ‘เจมส์ ฟรังโก’ ขึ้นห้อง ระหว่าง จอห์นนี่ เดปป์ ไม่อยู่บ้าน

ทนายแฉ! ‘แอมเบอร์ เฮิร์ด’ พา ‘เจมส์ ฟรังโก’ ขึ้นห้อง ระหว่าง จอห์นนี่ เดปป์ ไม่อยู่บ้าน

ทีมทนายของ จอห์นนี เดปป์ ฉายคลิป แอมเบอร์ เฮิร์ด พา เจมส์ ฟรังโก ขึ้นห้อง ระหว่างอดีตสามี จอห์นนี เดปป์ ไม่อยู่บ้าน เจ้าตัวลั่นเป็นแค่เพื่อนเฉยๆ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม สำนักข่าว EW รายงาน ทีมทนายของจอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) เปิดคลิปวินาทีของ แอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard) นักแสดงสาวชื่อดัง พา เจมส์ ฟรังโก (James Franco) ขึ้นห้องพักสุดหรูของเขา ในขณะที่ จอห์นนี เดปป์ สามีของเธอไม่อยู่บ้าน

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดภายในลิฟท์แสดงให้เห็นถึงวินาทีสัมพันธ์สวาทของทั้งสอง 

ซึ่งทางทีมทนายของเดปป์ยืมกรานว่า เฮิร์ด รู้ว่าสามีของเธอไม่อยู่ ขณะที่ทางดาราสาวปฏิเสธและระบุว่าเธอจำไม่ได้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ซึ่งทาง เฮิร์ด ยืนกรานว่าเธอและ ฟรังโก เป็นแค่เพื่อนและเพื่อนบ้านเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ เฮิร์ด ได้ให้การว่า เดปป์ สงสัยว่า แอมเบอร์ เฮิร์ด นอกใจ และระบุว่า เดปป์ เกลียดตัวของฟรังโกมาก และพยายามกล่าวหาเธอหลายครั้งว่าเธอหลับนอนกับดาราหนุ่มคนดังกล่าว ซึ่งทาง เดปป์ ก็ยอมรับว่า เขารู้สึกสงสัยจริง และทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจเวลาที่อดีตภรรยาของเขาออกไปเที่ยวกับคนอื่น

โดยตามรายชื่อของพยานนั้นมีรายชื่อของ เจมส์ ฟรังโก และ อีลอน มัสก์ แฟนเก่าของ แอมเบอร์ เฮิร์ด อยู่ด้วย อย่างไรก็ตามทั้งสองคนไม่น่าจะขึ้นให้การ อย่างไรก็ดี เอลเลน บาร์กิน (Ellen Barkin) นักแสดงสาวและน้องสาวของแอมเบอร์ เฮิร์ด น่าจะขึ้นให้การกับศาลในสัปดาห์นี้

ก่อนหน้านี้ตัวของเดปป์ ยอมรับว่าเขาและอดีตภรรยาเคยทะเลาะกัน แต่ไม่มีครั้งไหนที่เขาลงมือทำร้ายร่างกายของ เฮิร์ด และเขายืนกรานด้วยว่า เขาไม่เคยทำร้ายผู้หญิงคนไหนในชีวิตของเขาเลยด้วยซ้ำ ในส่วนของประเด็นการใช้ยาเสพติดนั้น เดปป์ ระบุว่า เขาไม่ได้ใช้ยาเพื่อความสนุก แต่เขาใช้ยาเพื่อหลบหนีชีวิตที่ยุ่งเหยิงจากการถูกแม่ทำร้ายร่างกาย

รวมถึงยังมีการเล่าวินาทีที่ขี้บนเตียงอีกด้วย โดย เดปป์ กล่าวหาว่า เฮิร์ด หรือ เพื่อนของเธอขี้บนเตียงเขา หลังจากที่พวกเขามีปากเสียงกันภายในวันเกิดของเธอ

ซึ่งชาวเน็ตหลายคนได้ร่วมติดแฮชแท็ค #JusticeForJohnnyDepp เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับนักแสดงหนุ่ม หลังจากที่ชีวิตการแสดงของเขาพังทลายลง หลังจากที่ทางนักแสดงสาว เล่าเรื่องการหย่าร้าง และกล่าวหาอดีตสามีว่าใช้กำลังกับเธอ ซึ่งในบทความนั้นไม่ได้มีการกล่าวถึงชื่อของ เดปป์ แต่อย่างใด ทั้งนี้จากการขึ้นศาลก่อนหน้านี้ ทาง เดปป์ ได้ยื่นเอกสารยืนยันว่า ในบทความเป็นการพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกตน ก่อนจะหย่าร้างกันไปในปี 2560

สื่อเผยเหตุ เครื่องบินตกจีน อาจเป็นการตั้งใจโหม่งโลก

สื่อสหรัฐฯ เผยเหตุ เครื่องบินจีน MU5735 ตกนั้นอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นความตั้งใจของนักบิน หลังตรวจสอบกล่องดำ พบเครื่องบินดิ่งเพราะการบังคับ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม สำนักข่าว วอลล์ สตรีท จอร์นอล รายงานว่า จากการตรวจสอบกล่องดำของเที่ยวบิน MU5735 ของสายการบิน ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ ที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 132 คนเสียชีวิตทั้งหมด

โดยทางสำนักข่าวได้อ้างอิงบุคคลใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ประเมินเหตุการณ์ดังกล่าวจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลของกล่องดำทำให้ทราบว่า เครื่องบินดิ่งหัวลง เพราะการบังคับจากภายในห้องคนขับ นั่นทำให้มีความเป็นไปได้ว่าสาเหตุที่เครื่องบินโหม่งโลกอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุ

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังมุ่งเป้าไปยังการกระทำของนักบิน ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีบุคคลอื่นบุกเข้าไปในห้องนักบินและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุสลดนี้ขึ้น

อย่างไรก็ตามหากรายงานนี้เป็นจริง จะทำให้ทางโบอิ้งผู้ผลิตเครื่องบิน จะไม่ต้องรับผิดชอบเหตุ เครื่องบินตกในครั้งนี้ ด้าน องค์การบริหารการบินแห่งชาติ และ คณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นถึงรายงานฉบับดังกล่าว

จากข้อมูลจากเว็บ Flightradar24 ระบุว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.20 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันเกิดเหตุ เครื่องบินกำลังบินอยู่ที่ระดับความสูง 29,100 ฟุต ก่อนที่นั้นเครื่องบินได้ตกลงอย่างฉับพลันทันที และแม้ว่าเครื่องบินจะดึงกลับขึ้นมาที่ 7,000 ฟุตได้ครู่หนึ่ง เครื่องบินก็ดิ่งกลับลงไป ด้วยความเร็วเกือบ 31,000 ฟุต/นาที ไม่กี่นาทีก่อนเกิดเหตุ โดยเครื่องบินตกโบอิ้ง 737-800 ของเที่ยวบิน MU5735 ตกที่เมืองอู่โจว เขตปกครองตนเองกว่างซี ของจีน

ขณะนี้ประเทศสหรัฐอเมริกามียอดผู้ป่วยสะสมโรคโควิด-19 มากกว่า 14 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตจากโรคไวรัสแล้วเกือบ 280,000 ศพ ซึ่งนายไบเดน คาดว่า ในช่วงตอนนี้ ถึง ธันวาคม ยอดผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้น 250,000 ศพ ซึ่งทางการอังกฤษได้สั่งวัคซีนชนิดดังกล่าวแล้ว 40 ล้านโดส เพียงพอสำหรับประชาชนราวๆ 20 ล้านคนทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนให้ประชาชนอย่า ‘การ์ดตก’ และปฏิบัติตามมาตรการรักษาความสะอาดและการเว้นระยะห่างทางสังคมต่อไป แม้ว่าจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม ขณะนี้ประเทศอังกฤษมียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 1.5 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสเกือบ 60,000 ศพ

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป